เมนู

อาฆาตวรรคที่ 2


1. ปฐมอาฆาตวินยสูตร


ว่าด้วยธรรมระงับความอาฆาต 5 ประการ


[161] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรมเป็นที่ระงับความอาฆาตซึ่งเกิดขึ้น
แก่ภิกษุโดยประการทั้งปวง 5 ประการนี้ 5 ประการเป็นไฉน ? คือ ความ
อาฆาตพึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญเมตตาในบุคคลนั้น 1 ความอาฆาต
พึงบังเกิดขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญกรุณาในบุคคลนั้น 1 ความอาฆาตพึงบังเกิด
ขึ้นในบุคคลใด พึงเจริญอุเบกขาในบุคคลนั้น 1 ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้นใน
บุคคลใด พึงถึงการไม่นึกไม่ใฝ่ใจในบุคคลนั้น 1 ความอาฆาตพึงบังเกิดขึ้น
ในบุคคลใด พึงนึกถึงความเป็นผู้มีกรรมเป็นของ ๆ ตนให้มั่นในบุคคลนั้นว่า
ท่านผู้นี้เป็นผู้มีกรรมเป็นของ ๆ ตน เป็นทายาทแห่งกรรม มีกรรมเป็นกำเนิด
มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่ง จักทำกรรมใด ดีก็ตาม ชั่วก็ตาม
จักเป็นทายาท (ผู้รับผล) ของกรรมนั้น ดังนี้ 1 ภิกษุพึงระงับความอาฆาต
ในบุคคลนั้น ด้วยประการฉะนี้.
จบปฐมอาฆาตวินยสูตรที่ 1

อาฆาตวรรควรรณนาที่ 2


อรรถกถาปฐมอาฆาตวินยสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในปฐมอาฆาตวินยสูตรที่ 1 แห่งวรรคที่ 2
ดังต่อไปนี้ :-
ชื่อว่า อาฆาตวินยะ เพราะอรรถว่า สงบระงับอาฆาต. บทว่า
ยตฺถ ภิกฺขุโน อุปปนฺโน อาฆาโต สพฺพโส ปฏิเนตพฺโพ ความว่า
ความอาฆาตเกิดขึ้นแก่ภิกษุในอารมณ์ใด พึงระงับความอาฆาตทั้งหมดนั้นใน
อารมณ์นั้นด้วยอาฆาตปฏิวินัย ( ธรรมระงับอาฆาต) 5 เหล่านี้. บทว่า
เมตฺตา ตสฺมึ ปุคฺคเล ภาเวตพฺพา ความว่า พึงเจริญเมตตาด้วยติกฌาน
(ฌานหมวด 3) และจตุกฌาน (ฌานหมวด 4). แม้ในกรุณาก็นัยนี้เหมือนกัน.
แต่อุเบกขาควรเจริญด้วยจตุกฌาน (ฌานหมวด 4) และปัญจกฌาน (ฌาน
หมวด 5). ก็เพราะจิต (อาฆาต ) ของผู้ที่เห็นบุคคลใดยังไม่ดับ มุทิตาจึงไม่
ปรากฏในบุคคลนั้น ฉะนั้นท่านจึงไม่กล่าวถึงมุทิตา. บทว่า อสติ อมนสิกาโร
ได้แก่ พึงตัดความระลึกถึงในบุคคลนั้นโดยอาการที่บุคคลนั้นไม่ปรากฏเป็น
เหมือนเอาฝาเป็นต้น กั้นไว้ฉะนั้น. บทที่เหลือง่ายทั้งนั้น เพราะมีนัยกล่าว
ไว้แล้วในหนหลัง.
จบอรรถกถาปฐมอาฆาตวินยสูตรที่ 1